ความเป็นมา แห่งชุมชน ปากน้ำบุ่งสระพัง การขุดพบ หลวงพ่อเงิน 700 ปี
ปู่ เลิศ ประสานพิมพ์ อายุ 91 ปี
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ขุดพบหลวงพ่อเงิน
ณ ดงพระคเณศ (ดงตาเณศ)วัดป่าพระพิฆเณศวร์ บ้านปากน้ำ (บุ่งสระพัง) จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. 2515
ผู้ร่วมให้สัมภาษณ์
- นายเคน พวงผกา
- นายกำจัด ถาวรพงศ์
- นายสมบูรณ์ บุญเย็น
- นายเขียว บัวงาม
- นายแอ๋ แสนทวีสุข
ผู้สัมภาษณ์ : ร.ต.ท. วชิรานนท์ บุญเย็น เมื่อ พ.ศ. 2562
ผู้ถอดบทสัมภาษณ์ : พระมหาระพีพัฒน์ ญาณวิชโย(ตั้ม)วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
ตัดต่อ ธนเมศ ศิริสุเมธา
จัดทำเผยแผ่เกียรติคุณของ พ่อถ่านจันทร์ ญาถ่านจันทร์ หลวงตาจันทร์ หรือ หลวงปู่เจ้าคุณพระมงคลธรรรม (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) ผู้นิมิตเห็นหลวงพ่อเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2515
•ปู่คำแหง ปู่คำหาญ ปู่คำลือชา ปู่ทองลาย ผู้สร้างบ้านแปลงเมือง•
ปู่ทองลายอยู่บ้านโนน
ปู่คำหาญ เริ่มต้นก็คืออยู่นี่ ?ใช่! ดั้งเดิม พ่อแม่เล่าให้ฟังว่า ปู่ของปู่ของพวกเรา ตายไปแล้วก็ไปเป็นหลักบ้านหลักเมือง
ต่อมา ปู่คำแหง เเตกบ้านเเตกเมือง พาพวกเราขึ้นไปสร้างบ้านสร้างเมืองอยู่บ้านเรา(ปัจจุบัน) ปู่คำแหง กับ ปู่ทองลาย
ส่วน ปู่คำลือชา อยู่ท่าน้ำคำ ไม่ได้ขึ้นไป (ปู่คำลือชา)เป็นคนบ้านดงตาเณศ บ้านอยู่แถวนี้ แถวดงตาเณศ (ดงตาเณศ คือ ดงพระพิฆเณศวร์เราทุกวันนี้-ทวนข้อมูล) เป็นปู่ตั้งแต่พ่อแม่เรานี้แหละที่มาเป็นปู่เราต่อมา
ท่านบอกว่า เมื่อก่อนแถวนี้เป็นบ้านเป็นเมือง เป็นหมู่บ้านดั้งเดิม จะมีแม่ออกแม่ตนไปจังหันจังเพลวัดดงตาเณศ มีขัวน้อยข้ามไป(อ๋อ! เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมมาแต่เก่าก่อน-อธิบาย) ไปเพลดงปู่วัดป่าฯ เดินกันมาตั้งแต่โน้น หาขุดเผือกขุดมันไปเพล ไม่มีข้าวไม่มีน้ำเหมือนทุกวันนี้ เมื่อก่อนคนป่าคนดง
สรุป ปู่คำหาญท่านอยู่ที่นี่ดั้งเดิม มาตั้งแต่ต้น แล้วก็ปู่ทองลาย มีปู่คำแหง?
ตอนพ่อใหญ่เป็นเด็ก อายุยังไม่มาก ท่านย้ายลงมา (ยังไม่เป็นบ่าวใช่ไหม พ่อใหญ่ ?) ยังไม่เป็นบ่าว แต่พอรู้เรื่องแล้ว (ย้ายตอนโตพอเรื่องแล้วใช่ไหม ? )
ตอนย้ายนั้น สาเหตุที่ต้องย้าย เพราะคนตายตกน้ำมาก คนไปเลี้ยงควายฟากบุ่ง ตายตกน้ำ คนเห็นผีเงือก ผีมูลขึ้นอยู่ในบุ่ง พ่อถ่านดีโลด(คือ พระครูวิโรจน์รัตโนบล (รอด) วัดทุ่งศรีเมือง) ท่านพาทำพิธีกันบ้านกันเมือง ท่านบอกว่า เอาย้ายมาอยู่ด้วยกันก็แล้วกัน ก็เลยมาย้าย
โนนวัดท่านํ้าคำ เมื่อก่อนเป็นบ้านคน เป็นดินพ่อใหญ่ดวง พ่อใหญ่ดวงกับพ่อใหญ่คูน เป็นคนถวายดินท่าน้ำสร้างวัด ท่าน้ำคำ ถวายพ่อถ่านดีโลดสร้างวัด อยากได้วัด อยากให้มีพระมาอยู่วัด จึงไปนิมนต์พ่อใหญ่คำมาอยู่
แต่ก่อนพ่อใหญ่พิมพากับพ่อใหญ่สีเหลือง สองพี่น้องเป็นโยมหลัก ๆ (พ่อใหญ่คำ)เป็นครูบาอาจารย์อยู่ในเวลานั้น มาอยู่บิณฑบาตได้สองปี ตอนนั้น ท่านได้เป็นถึงญาครูคำ ได้ญาครูคำมาอยู่ (พ่อใหญ่คำ คือ ผู้ใหญ่บ้านเก่าเราใช่ไหม? – ถาม ใช่ นั่นแหละ ผู้ใหญ่บ้านเก่าเรา-ตอบ) พ่อใหญ่สีเหลืองสองพี่น้องเป็นเจ้าโยมเจ้าวัดคอยดูอยู่ที่นั่น
ผู้ใหญ่บ้านเก่า คือ ตั้งแต่หมู่บ้านที่ยังตั้งอยู่ที่นี่ใช่ไหม ?
ไม่ใช่ ย้ายหมู่บ้านขึ้นไปแล้ว
ทีนี้ บ้านเราตามที่พ่อใหญ่ได้ยินมา ย้ายจากบ้านบาก สาเหตุที่ต้องย้ายเพราะอะไร แถวนี้เป็นหมู่บ้านทั้งหมดใช่ไหม ? ใช่ แถวนี้เป็นหมู่บ้านทั้งหมด
สาเหตุที่ต้องย้ายหมู่บ้าน สมัยก่อนบ้านเราไม่มีโรงว่านโรงยา(ไม่มีโรงพยาบาล)คนทะยอยตายคืนละสี่ห้าคนติดต่อกัน ชาวบ้านจึงแตกบ้านแตกเมืองหนี คนกลัวผี กลัวโรคอหิวา กลัวโรคห่า หนีโรคระบาด กลัวผีตายห่าตายโหง
ผู้ที่พาย้ายบ้าน คือ ปู่คำหาญกับปู่คำแหง หลังจากปู่คำหาญกับปู่คำแหงตาย เขาก็ตั้งหอโฮงขึ้นให้เป็นเจ้าบ้านหลักเมือง ปู่คำแหงรักษาทางตะวันออก
แต่ก่อนท่านก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกันกับเรา แต่ว่า ท่านเป็นผู้นำพาย้ายหมู่บ้าน เหมือนเป็นผู้ใหญ่บ้าน หลังจากเสียชีวิต ก็ตั้งหอให้ปู่ ท่านก็เหมือนปู่ของปู่ของปู่เรา คนแต่ก่อนแต่เก่าเขานับถือกันอย่างนี้ เชิดชูผู้เฒ่าขึ้นมา
ท่านเป็นผู้สร้างบ้านแปลงเมือง เหมือนเจ้าคำผง พระวอพระตา อย่างนี้ใช่ไหม ?
อ๋อ! ที่ไปที่มาเพิ่งจะรู้
ปู่ของปู่เรานี่แหละ ที่ท่านพาสร้างบ้านแปลงเมือง
แต่ว่า ทีนี้ตามที่ว่า ปู่คำหาญเเต่ก่อนท่านก็เป็นผู้นำหมู่บ้านอยู่ที่นี่เหมือนกัน หลังจากท่านตายลง ลูกหลานก็สรรเสริญความดีท่าน ลูกหลานก็ทำหอโฮงให้ท่าน
ผู้เป็นเจ้าบ้านหลักเมือง ผู้รักษาเขตแถวบุ่งสระพัง ผู้รักษาบ้านรักษาเมือง รักษาลูกหลาน ทุกวันนี้
คนที่พาย้ายบ้านก็คือ ปู่คำแหง ปู่คำหาญ ปู่คำลือชา ปู่จันทวงศ์ เป็นคนพาลูกหลานขึ้นมาอยู่ในหมู่บ้าน ไปอยู่ดงบาก พ่อใหญ่ดวงว่า
(แถวนี้เป็นโรคระบาดเลยอพยพหนี -แทรก)
แต่ก่อนบ้านดงบากมันเป็นป่าทึบมาก เป็นป่าช้างดงเสือ ท่านว่าอย่างนั้น
ดงบากก็คือแถวนี้(แถวหอปู่) ใช่ไหม ?
ไม่ใช่ ดงบาก ก็คือ บ้านปากนำ้ที่เป็นหมู่บ้าน ในปัจจุบัน แต่ก่อนเป็นป่าดงบาก แล้วมาเปลี่ยนเป็นบ้านปากน้ำ ต้นบากอยู่หัวเฮือนพ่อใหญ่หยัด (กำจัด ถาวรพงศ์)
•เปลี่ยนชื่อบ้านบาก เป็นบ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง•
เอาต้นบากเป็นนามบ้านบาก มาเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านปากน้ำ พ.ศ. 2529
พ.ศ. 2529 ใช่ไหม? ที่เปลี่ยนจากบ้านบากมาเป็นบ้านปากน้ำ สาเหตุที่เปลี่ยน ก็คือเจ้าคุณวัดป่าใหญ่ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัด (พระเทพกิตติมุนีเก่าใช่ไหม ? -ถาม)
ใช่ นั่นแหละ
ท่านมาตั้งโรงเรียนของหมู่บ้าน โรงเรียนพระปริยัติธรรม ท่านบอกว่า บ้านปากน้ำชื่อไม่เข้ากันกับบุ่ง เปลี่ยนใหม่เถอะ เปลี่ยนทั้งวัด ทั้งหมู่บ้านก็แล้วกัน เปลี่ยนเป็นบ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง จึงจะเข้ากัน ก็เลยต้องเปลี่ยน
แสดงว่า หลวงพ่อเจ้าคุณพระเทพกิตติมุนี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบล เป็นผู้เสนอ หลวงพ่อบ้านเรา หรือหลวงตาจันทร์ ก็สนองจึงเปลี่ยน
ท่านบอกว่า จะขอชื่อจากกรมฯ ให้ ท่านว่าอย่างนั้น
ปี 2529 ใช่ไหมพ่อใหญ่ ?
ใช่ ปี 2529
ปี 2529 คือ เปลี่ยนบ้านบากน้ำเป็นบ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง (ได้ยินแต่หลวงพ่อท่านเล่า แต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่า คนนั้นคนนี้เสนอดอก-แทรก) ก็แสดงว่า หลวงพ่อเจ้าคุณเป็นคนบอก ท่านก็เลยมาปรึกษาชาวบ้าน
ท่านบอกว่า บ้านบากน้ำมันไม่งาม มันไม่เข้ากันกับบุ่งสระพัง (ต้นบากล้มไปหมดแล้ว เหลือแต่ตอ จึงมาตั้งใหม่ เพราะว่า มันน่ากลัว ทีนี้จึงมาตั้งใหม่เป็นบ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง
ที่จำได้เพราะลานผมอยู่ตรงนั้น ต้นบากใหญ่ขนาด 7-8 คนโอบ ต้นบากใหญ่อยู่บ้านพ่อใหญ่หยัด เมื่อก่อนมันเป็นสวนเรา (ไม่ใช่ต้นไฮเหรอ ? -ถาม) ต้นไฮอยู่ไปทางแยกโน้น อยู่ตรงเฮือนสาวนงค์
นี่คือจุดกำเนิด ชื่อว่า บากน้ำ คือ ต้นบากอยู่ที่นั่น มีอยู่สามต้น แต่ว่า ต้นหนึ่งตายก่อนจึงเหลือสองต้น ตอนผมเป็นเด็กยังพอจำได้
วิดีโอนี้จะเป็นการยืนยัน เพราะว่า ผมจะเอาเข้ายูทูบไว้ (YouTube) เป็นการยืนยันให้ลูกหลานดูว่า เปลี่ยนชื่อจากบ้านบากน้ำมาเป็นบ้านปากน้ำ โดยเจ้าคุณอดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบล วัดป่าใหญ่ เป็นผู้เสนอ ชี้แนะ หลวงพ่อ(เจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์) ก็เลยตอบสนองกับชาวบ้าน เปลี่ยนปี 2529
ตามที่ผมจำได้นะครับ พ่อใหญ่ ต้นนี้ตายทีหลังเพื่อน ต้นหนึ่งจะอยู่แถวนี้ (ทีนี้ แล้วต้นไหนลงก่อน ? ต้นที่ล้มก่อน ผมคิดว่า ต้นนี้ล้มก่อน-อธิบาย)พอต้นบากตายไปต้นไผ่จึงเกิด เพราะว่า ตอนผมมาอยู่นั้น ตอบากต้นนี้ มันยังเหลือต่ำ ๆ อยู่ ตอมันเหลือต่ำกว่าต้นอื่น แต่ว่า อีกต้นยังสูงกว่าต้นนี้ แสดงว่า ต้นนี้น่าจะตายทีหลังเพื่อน
ก็แสดงว่า ต้นบากนี้มีอยู่สามต้น ผมโตทันแค่ต้นไฮกับต้นอะไรสักอย่าง ?
พอมันล้มจนมันผุแล้ว ผมจึงไปขุดเอาฝุ่นเอาปุ๋ยลงปลูกต้นมะพร้าว (แถวนั้นเป็นสวนพ่อใหญ่ภูกับสวนของแม่ใหญ่เจ้า-แทรก มันจะเป็นโพนอยู่ตรงนั้น มันจะอยู่ตีนโพน-อธิบาย ต้นแคนอยู่โพน-ค้าน)
ตอนจำความได้ มันสูงถึงหอปู่หลังนี้แหละ มันหักลงมาหมดแล้ว เหลือแต่ตอผุ ๆ แต่ว่า เห็นสองต้น ต้นที่สามไม่เห็น ไม่มีใครเห็นต้นมัน ขนาดผมยังเห็นแค่ตอ ต้นมันใหญ่มาก บ่างบินร่อนไปร่อนมา
ส่วนต้นไฮมันอยู่สวนพ่อใหญ่ภู อยู่ต่อแดนกัน เดี่ยวนี้เป็นที่ของพ่อใหญ่หยัด (กำจัด ถาวรพงศ์) ใช่ ๆ ครับ
ใครดูยูทูบ (YouTube)อยู่ในขณะนี้ นี่ก็คือความเป็นมาการตั้งชื่อ บ้านบากน้ำเป็นบ้านปากน้ำ
มีพ่อใหญ่เลิศ มี พ่อใหญ่หยัด มีพ่อใหญ่เขียว ตาสมบูรณ์ พ่อใหญ่เคน พ่อใหญ่แอ๋ เป็นพยาน เป็นประวัติศาสตร์ว่า ลูกหลานบ้านปากน้ำ เกิดขึ้นมาบางคนก็ไม่รู้ แม้กระทั่งผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
อันนี้เป็นครั้งแรก เป็นการบันทึกไว้เป็นความจริงว่า เริ่มแรกก็คือท่านเจ้าคุณพระเทพกิตติมุนี อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี วัดป่าใหญ่ วัดมหาวนาราม ท่านมางานเปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่อาจารย์มังกรมาอยู่วัดป่าฯ ช่วงนั้น
เเล้วท่านก็เสนอว่า ควรจะเปลี่ยนบ้านบากน้ำเป็นบ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง เพื่อให้คล้องจองกับปากบุ่ง เพราะมีปากบุ่งเพื่อจะให้สอดคล้องกับบุ่งสระพัง
ปากนํ้า บุ่งสระพัง เปลี่ยนทั้งบ้านทั้งวัด
นี่คือที่ไปที่มา หลวงพ่อท่านเจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัด สมัยนั้น ท่านมาให้เปลี่ยนชื่อจากบากน้ำเป็นปากน้ำ จนถึงปัจจุบัน
อันนี้ยืนยันว่า ผู้ที่อยู่ในภาพนี้ มีแต่ผู้นำหมู่บ้าน โดยเฉพาะพ่อใหญ่เลิศเรา พ่อใหญ่เขียว แล้วก็ อบต พ่อใหญ่หยัด หลายคนเกิดมาก็ยังไม่รู้
ทีนี้ วันนี้ ผมมากราบมาไหว้ปู่คำหาญ ปู่ทองลาย และปู่คำแหง
ปู่คำหาญนี้ อยากให้พี่น้องได้ฟังไปด้วย (ปู่คำหาญ)อยู่ท่ามูล แม่น้ำบุ่ง ปู่คำหาญนี้เป็นเจ้าบ้านเจ้าเมืองเก่าแก่ แต่ก่อนตั้งบ้านแปลงเมืองอยู่ติดบุ่ง (อาศัยแม่น้ำหากิน-แทรก) แล้วก็ปู่คำแหงกับปู่ทองลาย เป็นผู้นำหมู่บ้านเหมือนกัน แล้วย้ายขึ้นไปบ้านปากน้ำ(ในปัจจุบัน) แล้วก็เสียชีวิตลง เมื่อเสียชีวิตลงแล้วลูกหลานทุกคนตั้งหอโฮมให้ท่านอยู่
นี่คือที่ไปที่มา
ปู่คำแหงอยู่ทางทิศตะวันออก
ปู่ทองลายอยู่ในทิศตะวันตก รักษาบ้าน
นั่นก็คือที่วัด(บ้าน)ปัจจุบัน ของปู่คำแหง ที่ตั้งวัดอยู่ปัจจุบันนี้ วัดบ้านปากน้ำของเราปัจจุบัน อยู่ในเขตวัด วัดปากน้ำเรานี้ เมื่อก่อนเป็นดงใหญ่มาก เป็นดงไม้ยาง ส่วนคุ้มบ้านโนน แถวที่พ่อใหญ่พิมพา ก็เป็นดงใหญ่ คุ้มบ้านโนนก็มีแค่เหล็ก
ขอถามพ่อใหญ่ คือ วัดป่าพระพิฆเณศวร์ หรือว่า พระพิฆเณศวร์ บุ่งสะทัง
บุ่งสระพังนี้ มันมีที่มา ที่ไป จุดไหนที่ หลวงพ่อเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ หรือว่า หลวงพ่อญาถ่านจันทร์ บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล หรือว่า หลวงพ่อบุญจันทร์ ประสานพิมพ์ บุ่งสระพังจริง ๆ อยู่ตรงไหน ตัวบุ่งสะทัง ?
บุ่งสระพัง สระพัง สระนั้นเขาเรียก “หนองสะทัง” ตรงนาพ่อใหญ่เคน-นาพ่อใหญ่โทน หนองสะทัง เเต่ก่อนเป็นหนองนํ้าสีเขียวมรกต นาเข็ดนาขวาง (อยู่ตรงบ้านพ่อใหญ่พุดที่ตายไปแล้วใช่ไหม ?-ถามแทรก) นาเข็ดนาขวาง หนองสระพัง คนลงไม่ได้เลยเด็ดขาด
วันศีลวันพร(วันพระ)จะมีเสียงฆ้องใหญ่ดังมาจาก หนองสะทัง นั้น
(หนองก็ไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่ แต่ว่า เป็นฮ่อมเป็นคลองไป-อธิบาย)
เสียงฆ้องใหญ่ดังขึ้นจากตรงนั้น
คือ ฆ้องใหญ่ที่เข้าใจว่า เป็นฆ้องทองคำ ที่เขาลือกันมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อ สมัยหลวงพ่อ หลวงตาจันทร์ ก็คือเสียงดังจะเกิดขึ้นตรงนั้นใช่ไหม ?
ขึ้นจากหนองสะพัง พ่อใหญ่ศิลาเคยเห็นฆ้องด้วย นาพ่อใหญ่ศิลาอยู่ตรงนั้น คนที่เห็นด้วยตัวเอง ก็คือ พ่อใหญ่ศิลา ขึ้นตรงต้นไม้ใหญ่ ผมเคยเห็น ตื่นเช้ามา ดินยุบลงเหมือนเตาถ่านหยุบ ขึ้นอยู่ในไร่
ผมเคยถามหลายคน บอกว่า มีลำแสงขึ้นมาจากต้นบก ไม่รู้ขึ้นจากตรงไหน แต่ว่าเป็นบริเวณนั้น ไปถึงวัดป่าพระพิฆเณศวร์ ลำแสงจะขึ้นระหว่างต้นบกกับต้นยางใหญ่ ต้นยางใหญ่ต้นนั้น ไม่ใช่ต้นเล็ก ๆ ราวห้าคนโอบได้
ก็แสดงว่า ตรงนั้น เป็นที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าภูมิ เจ้าที่ พอถึงวันศีล(วันพระ)จะมีแสงขึ้น ?
จะมีแสงขึ้นเฉพาะวันศีล (วันพระ) วันธรรมดาไม่ขึ้น ฆ้องใหญ่ก็จะดังขึ้นวันนั้นเหมือนกัน วันศีลจะเห็นบั้งไฟใหญ่ขึ้นอีกแล้วนะ เดี๋ยวฆ้องจะดังตามมา เเล้วก็มีเสียงฆ้องดังขึ้นตามมาจริง ๆ
นั่นคือ วันศีลวันพระจะมีเสียงฆ้อง เเล้วก็จะมีเเสงพุ่งขึ้น แต่ว่า จะขึ้นตรงไหนก็ไม่รู้ แต่มองอยู่ไกล ๆ มองมาหลายกิโลฯ ประมาณ 1 กิโลฯ ก็มองเห็น (สว่างมากไหม ? ถามแทรก) เเสงจะพุ่งขึ้นสูงถ่วมหัว แต่ไม่ได้สว่างตลอด จะสว่างวาบ วาบขึ้นไป เหมือนเราจุดบั้งไฟ เป็นแสงสีเขียว หลังจากเห็นแสงไฟ เสียงฆ้องดังไฟขึ้น
ทีนี้ ที่ตั้งชื่อวัดพระพิฆเณศวร์นี้ ผมเห็นพระพิฆเณศวร์ ที่ออกจากบ้านเรา ตอนนี้ อยู่วัดสุปัฏฯ อยู่พิพิธภัณฑ์วัดสุปัฏฯ อุบล ช่วงนั้น พบพระพิฆเณศวร์องค์นี้อยู่ที่ไหน พ่อใหญ่ ที่ว่า สมเด็จพระมหาวีรวงศ์มาเอาไป ?
อยู่ต้นบก ตรงทางลงไปบุ่งสระพัง
พิงต้นบกอยู่
ใครเป็นคนเห็นคนก่อนคนอื่น หรือว่าหลวงพ่อ?
ไม่ใช่หลวงพ่อ
(ผุดขึ้นมาเองหรือเปล่า พ่อใหญ่ ?คำถามแทรก)
ที่พบตอนแรกนั้น แถวนาท่านั้นเป็นนาพ่อใหญ่โทน พ่อใหญ่สา ผัวยายเเพง คนบ้านวังกางฮุง ใครผ่านไปผ่านมาก็เห็น แต่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์อะไรพระองค์นั้น
คงคิดว่า เป็นพระปูนทั่วไป ?
ที่เห็นนั้น ญาถ่านโสม วัดบ้านวังกางฮุง มาเยี่ยมน้องชายท่าน อยู่นาพ่อใหญ่แพง มาเยี่ยมลูกพ่อใหญ่สา ที่มาเอาเมียอยู่นาพ่อใหญ่เเพง จึงเรียกกันมากินข้าวกินน้ำ ญาถ่านโสมเดินมาเห็นพระพิฆเณศวร์ ก็บอกว่า โอ้ย! อาตมาขอได้ไหมพระองค์นี้ ญาถ่านโสมบอก
ตอนนั้น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อยู่วัดสุปัฏฯ ญาถ่านโสมจะเอาไปถวายหลวงปู่สมเด็จฯ ให้อาตมาเถอะ ชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ก็บอกว่า เอาไปเถอะ ถ้าเอาไว้ก็เอาไว้เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร
เอาไปตอนแรกก็เอาไปตากแดดไว้ อยู่หน้าโบสถ์
ทีนี้พอบ้านเราดังขึ้นมา ก็เลยเอาไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ เลยไม่เห็น
นี่คือสาเหตุ แล้วหลวงพ่อมาตั้งชื่อวัดป่าพระพิฆเณศวร์ตอนไหน ?
ที่ตั้งชื่อวัดนั้น ปี พ.ศ. 2514 ฝรั่งอเมริกามาตั้งฐานทัพอยู่เมืองอุบล ตอนนั้น พ่อถ่านยังไม่ได้ทำอะไรเลย ยังไม่มีอะไรเลย ยังไม่มีว่าน มียา ยังไม่มีศีล มีธรรมอะไร
ทีนี้ หลวงพ่อท่านก็เลยออกธุดงค์ ตอนนั้นท่านสร้างบ้าน สร้างโรงเรียน พัฒนาบ้านเสร็จหมดแล้ว
ที่นี้ ท่านก็ออกธุดงค์ ออกวิปัสสนา ออกนั่ง
อ๋อ! ที่ว่ายังไม่มีอะไร คือ ยังไม่ได้เป็นวัดเป็นพื้นที่ปกติ เป็นป่าธรรมดา ?
แต่ก่อน(วัดป่า)ยังไม่ได้เป็นวัดอะไร เป็นป่าเป็นดง เวลาเดินเหยียบไป ก็จะมีเสียงใบไม้ดัง เมื่อก่อน มีโบสถ์เก่าอยู่ตรงนั้น มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง เป็นพระอิฐพระปูน พ่อใหญ่ไปตอนนั้น ก็เคยเห็นเป็นรูปพระนั่งอยู่
ทีนี้ ก่อนจะไม่มีพระพุทธรูปนั้น เมื่อก่อนในดงนั้นมีลิงอยู่เยอะมาก คนบ้านทวนไม่นับถือพุทธมายิงลิงในดงนั้น แต่ยิงไม่ได้สักที ก็บอกว่า เป็นเพราะพระองค์นี้แหละ ทำให้ยิงลิงไม่ได้ จึงเอาฆ้อนทุบพระพุทธรูปในดงนั้นแขนหัก
ดงนี้ยิงลิงก็ไม่ได้ ตัดไม้ก็ไม่ได้ ตอนนั้น ใครเข้าไปทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
อยู่มา พ.ศ. 2514 หลวงพ่อเข้าปฎิบัติธรรม พาเณรไปนั่งปฏิบัติอยู่ดงนั้น ไม่รู้บังเอิญอย่างไร ก็ไม่รู้ ตอนนั้น ทหารอเมริกาเข้ามาลาดตระเวน เห็นแสงพุ่งขึ้นใส่เครื่องบิน เขาว่า เรดาร์จับได้ เขาว่า คอมมิวนิสต์อยู่ในดง
อ๋อ! เพราะว่ามันเป็นป่าทึบอย่างที่เราเห็นอยู่นี้
เวลาสามโมงเช้าวันนั้น ไม่รู้บังเอิญอะไร ตามปกติ ทุกวันท่านพาเณรไปนอน ก็จะขึ้นมาวัดตอนตีสี่ แต่วันนั้น ท่านบอกให้สามเณรกลับวัดไปก่อน ท่านบอกว่า หลวงพ่อยังไม่กลับ จะนั่งต่ออีกสักพัก จึงจะกลับ
พอดีได้เวลาสามโมง พวกฐานทัพอเมริกา ยกขบวนเข้าไปล้อม ตีวงเป็นพะลานล้อมท่านเข้ามา พอไปถึงเห็นพระองค์นั้นนั่งกรรมฐานอยู่ในกลด ก็เป็นหลวงพ่อนั่นแหละนั่งอยู่
ก็คือหลวงพ่อ พระมงคลธรรมวัฒน หรือ ญาถ่านจันทร์ นั่งสมาธิอยู่ตรงนั้น ?
ทหารอเมริกาเขามีล่าม ที่รู้เพราะทหารอเมริกาเขามีล่ามคนไทยมาด้วย เขามากับล่าม อยู่ต่อมา เกิดถูกใจหลวงพ่อ เขาก็เทียวมาหาหลวงพ่อบ่อย ๆ มา กราบมาไหว้ มาสนทนา
ล่ามบอกหลวงพ่อว่า หลวงพ่อ! เขาให้ถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่ออยากให้เขาสร้างอะไรบ้าง เป็นอนุสรณ์ให้กับบ้านกับวัดไหม เขาจะให้หมด เขาบอก
หลวงพ่อบอกว่า อาตมาอยากได้โบสถ์หลังงาม ๆ โบสถ์ทาสีไม่เอา อยากได้โบสถ์ติดแก้วเหมือนกรุงเทพ “แต่ว่าความคิดมีบ่แพ้ ทุนสิค้าฮั่นบ่มี” คิดอยากได้ แต่มันทำไม่ได้ เพราะเป็นหมู่บ้านทุกข์ หมู่บ้านยาก
ประมาณหนึ่งอาทิตย์ถัดมา เขาก็ขนหิน เหล็ก เอาทราย เอาปูนออกมาทั้งหมด ในวันเดียวกันนั้น
อ๋อ! นี่คือสาเหตุที่ว่าสร้างอุโบสถ์มิตรภาพไทย-อเมริกัน ?
ใช่ ๆ ทีนี้ เขาก็ขนมาจะให้มาทำมาสร้างโบสถ์ ถ้าจะสร้างก็ให้เตรียมสถานที่เอาไว้ แล้วเขาก็ได้เหล็ก ได้อิฐ ได้ปูน ได้เครื่องอุปกรณ์ เงินค่าก่อสร้างเขาก็ให้มาด้วย แล้วก็ให้ชาวบ้านมาขนดินเข้าโบสถ์ เห็นไหมปีนั้น
ก็แสดงว่า ตอนที่เขามาวันนั้น หลวงพ่อ เจ้าคุณเก่า อดีตเจ้าอาวาส ท่านมานั่งสมาธิ ท่านยังไม่กลับไปวัด ทีนี้ ฝรั่งนั้นแสงมันพุ่งไปโดนเรดาร์เขา อยู่กองบิน พอตอนกลางวันเขาก็มา ?
เขามาตอน 3 โมงเช้า ตอนประมาณ 3 โมงเช้า (เวลา 09.00 น.) ประมาณนี้ พอมาถึงเขาก็เข้ามาล้อม เขาสงสัยว่า จะมีเวียดนาม ตอนนั้น คอมมิวนิสต์มาก พอมาล้อมก็ไม่เจออะไร มีแต่หลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่ เขาจึงมาสนทนากับหลวงพ่อ คงคิดว่า ตรงนี้ต้องมีของดี
ใช่
แต่ว่า ความรู้สึกตอนนั้นจะเป็นจุดให้ขุดหลวงพ่อเงินใช่ไหม พ่อใหญ่ ?
ตอนนั้น ท่านยังไม่รู้ว่ามีหลวงพ่อเงิน
แต่ว่า มาขุดปี 2515
ทีนี้ ทหารฝรั่งก็ให้เหล็กมาสร้างโบสถ์ ก่อสร้างได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่ใช่น้อย ๆ เขาก็เลิกฐานทัพกลับ
อ๋อ คือ มาสร้างได้ประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว ?
ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ทีนี้ สงครามหยุด เขาก็กลับ ตอนนั้น จึงหยุดสร้างเพียงแค่นั้น ทำอะไรต่อไม่ได้
ต้องลำบากหลวงพ่อหาเงินสร้างโบสถ์แล้ว ?
อยู่มา ท่านก็มานั่งเข้าสมาธิ เห็นไหมท่านได้เลขสองตัวสามตัว ก็เลยบอกชาวบ้าน จนบางคนได้รถนั่งมาหาท่านก็มี ตอนนั้น คนก็เริ่มเข้ามา
ต่อมา ชีปะขาวก็มาบอกหลวงพ่อให้มาขุดเอาของอยู่ตรงนั้น ๆ
ชีปะขาว คือ เทวดาอยู่ตรงนั้นแหละ ?
เมื่อก่อน ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปดงนั้น เขากลัว เห็นว่า ตอนสมัยก่อนนั้น ป่านี้เป็นครั้งที่สอง แต่ก่อนนั้น พวกพ่อใหญ่เกี้ยวเอาหัวพ่อทันไปฆ่าพระ(ทุบพระพุทธรูป) อยู่ในดงนั้น แล้วถางป่าแถบนั้นลงหมด ทำไร่อ้อย ทุกวันนี้ เหลือแต่ต้นไม้รุ่นใหม่ที่ขึ้นมา
ตอนนั้น พ่อใหญ่ยังเป็นเด็กเรียนอยู่ ป.4 ไปขุดหลุมปลูกอ้อยให้พ่อใหญ่เกี้ยวในดงนั้น อายุ 8 ปี เข้าโรงเรียน ตอนนั้น เข้าโรงเรียนอยู่ ป.4 ก็อายุ 12 ปี
ป่านี้เคยมีการบุกรุกเข้าไปทำไร่อ้อย ตั้งแต่พ่อใหญ่อายุ 8 ปี 10 ปี ?
เข้าโรงเรียน ป 4 วิ่งลงไปรับจ้างขุดหลุมอ้อย สมัยนั้น
ทีนี้ ตอนขุดเจอหลวงพ่อเงิน สมมุติว่า หลวงพ่อมานั่งสมาธิดู แล้วชีปะขาวก็มาบอกว่า มีของดี หลวงพ่อเงิน 700 ปี ที่เราเอาขึ้นมาแล้ว ก็มาเช็ค ให้กรมศิลปากรมาดู กรมศิลปกรมาเช็คว่า เป็นเนื้อเงิน สร้างมาประมาณ 700 ปี นี้คือมารู้ทีหลัง แต่ตอนที่เขาขุดเอาขึ้นนั้น มีมากไหมพ่อใหญ่ มีพระอะไรบ้าง ?
ตอนเอาขึ้นนั้น ชีปะขาวว่า หลวงพ่อเป็นเจ้าของ เป็นคนสร้าง เป็นคนฝั่งทั้งหมด ดูไปก็เหมือนว่าจริง ๆ หลวงพ่อชี้ลงตรงไหนไม่ผิด หลวงพ่อบอกว่า ขุดตรงนี้ก็เจอ
หมายถึงว่า เทวดาบอกว่า เป็นสมบัติของหลวงพ่อ ?
ใช่ เป็นสมบัติหลวงพ่อ สมบัติเก่าแก่ตั้งแต่อดีตชาติ คืนแรกก็มีแต่พระเป็นถาด เป็นถาด เขาว่า พระเงิน แต่ว่า แต่ละหลุมนั้นมีหัวกระโหลกสองหัว มีแขนมีขาครบหมด
(แสดงว่า เขาฝังไว้เฝ้าสมบัติ ?)
ตอนฝั่งนั้นก็จะบอกว่า เอาทหารผู้กล้าหาญ ใครกล้าหาญก็ตัดคอฝังลงตรงนั้น ใครจะกล้าเฝ้า
ในสมัยนั้นจะทำกันอย่างนี้ใช่ไหม ?
ยุคคนแปดศอก
ใช่ ทีนี้ ขุดหลวงปู่เงิน ตอนนั้น เป็นคืนที่สอง คืนที่สามเป็นคืนสุดท้าย ส่วนคืนที่สองนั้นตำรวจมา ขุดได้ครึ่งหนึ่งตำรวจมา อยู่สถานีบ้านแคน ตำรวจมากวน
ตอนนี้คงตายไปหมดแล้วใช่ไหม ?
คืนที่สองตำรวจมาขู่หลวงพ่อ จะจับหลวงพ่อ เขาว่า หลวงพ่อขุดที่ที่ไม่มีเจ้าของ ถ้าเป็นที่ไม่มีเจ้าของ ผมจะจับ ถ้าไม่มีเจ้าของผมจะเอาไปเป็นของหลวง ของดี ๆ ให้ผมเลือกเอา ผมจึงจะให้ขุดต่อ
อ๋อ! หมายถึงว่า ผมจะไม่จับ แต่ต้องให้ผมเลือกเอาของดี ๆ ?
หลวงพ่อก็เลยต้องให้เลือกเอาหมด พระทองคำ พระเงินอยากได้ก็เอาไป ตำรวจมากันประมาณ 4 คน มาจากบ้านแคน ถ้าจำไม่ผิด มาตอนสองทุ่ม
ขุดตอนกลางคืนเหรอ พ่อใหญ่ ? ขุดทั้งคืนจนถึงเช้า
กลางวันกลบเอาไว้ก่อน
อ๋อ! ขุดตอนกลางคืน ?
ตอนนั้น ตำรวจมาเลือกเอาหมด ของที่ดี ๆ ตำรวจมาเลือกเอาไปหมด ต่อมา ในคืนนั้น ประมาณหกทุ่มหรือห้าทุ่มนี่แหละ (เที่ยงคืน) ตำรวจก็กลับมา เอาของมาคืนทั้งหมด
เกิดอะไรขึ้น เอาไปแล้ว ทำไมถึงเอามาคืน ?
เอาเข้าบ้านไม่ได้ เมียจะฆ่าเอา เมียไม่ให้เอาเข้าบ้าน เมียร้องห่มร่องไห้ ลูกก็ร้องห่มร้องไห้ เมียไม่ให้เอาเข้าบ้านแม้แต่คนเดียว เอาของกลับมาส่งคืนทั้งหมด ตำรวจบอกว่าไม่เอา ท่านไม่ให้ แล้วไม่มาใกล้อีกเลย
อ๋อ! นี้คือเกิดปฏิหาริย์ เกิดว่า เอาไปไม่ถูกต้อง มาขู่มาเข็นเอาพระไป ?
พอตำรวจเอาพระกลับมาส่งแล้ว ที่นี้ คืนที่สามขุดที่เดียวเลย คือ ขุดหลวงปู่เงินที่เดียว หลวงพ่อบอกว่า วันนี้พักผ่อนกันก่อน สองทุ่มค่อยขุด สองทุ่มค่อยขุด ท่านบอก ตอนนั้น พ่อใหญ่จะคอยอยู่ใกล้ชิดท่าน ไม่ได้ไปขุดกับเพื่อนดอก แค่คอยเดินไปดู แล้วกลับมารายงานท่าน
ขุดไปเเล้ว โอ้ย! ดินเเข็งมาก ขุดลึกลงไปเกือบหน้าอกแล้ว ก็ยังเปล่าแปน โอ้ย ! ไม่มีดอกหลวงพ่อ
“มี” หลวงพ่อบอก “ขุดลงไปอีก” ท่านบอก ขุดลงไปจนเห็นถ่านไฟ ถ้าเห็นถ่านไฟแล้วก็ใช่เลย โอ้ย! ปานตาหลวงพ่อเห็น มันจะมีถ่านไฟอยู่ก่อน
ตรงที่ขุดหลวงพ่อเงินนี้ก็คือตรงที่ศาลาครอบอยู่ ?
ใช่ศาลาครอบอยู่ปัจจุบัน
ตรงนี้คือที่ขุดพบหลวงพ่อเงิน ?
ทีนี้ ท่านบอกว่า ขุดลงไปมีแน่ อีกสักหน่อยจะเจอถ่านไฟ ขุดลงไปอีก ท่านว่า ท่านนั่งอยู่ในศาล ไม่ได้ออกมาดูกับพวกเราด้วย มีแต่คนมารายงานท่าน
โอ้ย! พวกเราก็เหนื่อย ขุดมาสามคืนแล้ว มันไม่มีหรอกหลวงพ่อ “มี” ท่านว่า ขุดลงไปเห็นถ่านไฟหรือยัง เห็นแล้วข้าน้อย นั่นล่ะ ต่อไปจะถึงทราย ท่านบอก น่าอัศจรรย์ยังกับตาท่านมองเห็น ยอมท่านเหมือนกัน โอ้ย! พ่อถ่าน ขุดถึงทรายแล้ว
โกยเอาทรายออก เอามือโกยออก ท่านบอก พอโกยทรายออกก็เจอเกตุพระพุทธรูปก่อน
นี่คือหลวงพ่อเงิน ทุกวันนี้ล่ะ ?
หลวงพ่อมาดูด้วย ตอนนี้เห็นเกตุเเล้ว หลวงพ่อจึงออกมาดู ทีนี่ท่านว่า มันเป็นกำแพงเห็นศิลาแลง เขาเอาหินศิลาแลงปิด (มีต่อ-)
(บทสัมภาษณ์ต่อ-)
ตั้งแต่ พ.ศ 2515 ที่ขุดได้ กว่าจะเอามาเปิดเผยได้ ก็ถึง พ.ศ. 2547 คิดดู อาจารย์วิมานกับเจ้าคุณเทอด เป็นคนเอาออกมาเปิดเผย
นั่นคือปีพ.ศ 2547 แต่ว่า ทุกคนไปบวชอยู่วัดก็ได้เห็น ผมก็ได้อุ้มหลวงพ่อเงิน แต่ไม่รู้ที่ไปที่มา คิดว่า เป็นพระธรรมดาทั่วไป อ๋อ! พึ่งเอามาเปิดเผยครั้งแรก ?
พ.ศ 2547
แต่ว่า ในยุคนั้น หลวงพ่อเงินนี้ สร้างแบบเวียงจันทร์ ที่กรมศิลป์เข้ามาดู แต่ว่าในสมัยนั้น มันเป็นยุคล่าอาณาณิคมความเจริญในยุคนั้น มันคือขอมพระนคร คือ ยุคสมัยนั้น มันมีขอมพระนคร แล้วมาช่วงยุคสมัยเวียงจันท์แล้วก็มายุคสยามประเทศทีหลัง
ช่วงนั้น จะมีภาษาขอมอยู่แล้ว ภาษาขอมหรือภาษาธรรม ถ้าคนดูก็อาจจะคิดว่า เป็นภาษาขอมอย่างเดียว ที่จริงมันเป็นภาษาธรรม หนังสือที่เราเคยอ่านกันสมัยบวชเรียน ใช่ไหมพ่อใหญ่ อาจจะมองแบบนั้น
แต่ว่าตรงฐาน การสร้างหลวงพ่อเงินนี้จะเป็นเเบบเวียงจันทน์ คือ เขาเปรียบเทียบกัน มีสมัยลพบุรีกับสมัยอยุธยา เขาจะเปรียบเทียบกันง่าย สกุลช่างเขาจะดูกันออก
แต่ว่า ศิลาแลงอยู่ใต้ฐานพระ
ตีสี่จึงเอาขึ้นได้ ต้องค่อย ๆ เอามือโกยทรายออก
ตอนขุดนั้นมีใครอยู่บ้าง ที่เป็นชาวบ้าน มีพ่อใหญ่ แล้วมีใครอีกลองไล่ชื่อดู ?
มีประมาณหกเจ็ดคน ตอนนั้นที่จำได้ก็มีพ่อใหญ่สุข(รักษาวงษ์) คนหนึ่ง พ่อใหญ่นำ (แสงสว่าง) พ่อใหญ่บ้านภู (ชื่นบาน) ตอนนั้น ผู้ใหญ่บ้านภู เป็นผู้ใหญ่บ้าน แล้วใครอีกที่อยู่ด้วย เพราะว่า ตอนนั้นการขุดเป็นความลับ รู้เฉพาะคนที่ใกล้ชิดกับหลวงพ่อ พวกกรรมการก็มีพ่อใหญ่สอน พ่อใหญ่สี พ่อใหญ่กาญจน์ พ่อใหญ่แดง พ่อใหญ่ทอง พ่อใหญ่ทองยักษ์ บ้านโนน ก็ได้ไปองค์หนึ่ง หลวงพ่อให้
หลวงพ่อก็ให้ผมเหมือนกัน แต่ตอนนั้นยังไม่รู้อะไร
แต่ว่า คนที่มีชีวิตอยู่ที่ช่วยขุดในวันนั้น ที่ยังเหลือ คือ พ่อใหญ่(พ่อใหญ่เลิศ ประสานพิมพ์ ผู้ให้สัมภาษณ์) พ่อใหญ่สุข ที่หนุ่มกว่าคนอื่น พ่อใหญ่ตอนนั้น หนุ่มกว่าคนอื่น พ่อใหญ่ตอนนั้น อายุประมาณ 50
ผู้ใหญ่บ้านนำก็มีองค์หนึ่ง นอกนั้นเสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่ว่า เหลือพ่อใหญ่เลิศ แล้วก็พ่อใหญ่สุข
ที่ได้เห็นช่วงขุดหลวงพ่อเงิน ขุดสามวันสามคืน เห็นช่วงเที่ยงคืน แต่ว่าเอาขึ้นได้คืนตีสี่ พอเอาขึ้นได้แล้วก็ปิดเลย
ที่ว่า เขามาเข้าฝันหลวงพ่อ ทีแรกหลวงพ่อเจ้าคุณพระมงคลธรรมวัฒน์ ตอนนั้น ท่านยังไม่เชื่อ เขาต้องมาเข้านิมิตท่าน 2-3 ครั้ง
สุดท้ายก่อนจะตัดสินใจ ท่านว่า ถ้าจะให้ผู้ข้า(อาตมา) ขุดจริงๆ ก็ให้ผู้ข้า(อาตมา)ขอสถานที่สร้างศาลาน้อยเอาไว้สักหลัง พอได้อาศัยร่มเงา ท่านก็ให้ พอให้แล้ว ทีนี้ หลวงพ่อก็กลับมาปรึกษาพ่อออก(ญาติโยมชาวบ้าน) เหมือนพวกเราอย่างนี้ เรียกมาบอกว่า จะขุดพระ ใครก็ถอยกันหมด กลัวตาย เพราะเคยเห็นพวกพ่อใหญ่เกี้ยวนั่งตาย นอนตาย สมัยนั้น
ใครไปล่วงเกิน มีอันเป็นไปหมดทุกคน ก็เลยไม่มีใครกล้า ?
เห็นพ่อใหญ่เกี้ยวไปทำไร่อ้อยปีนั้น ไปฆ่าพระ(ทุบพระพุทธรูป)จึงนั่งตาย นอนตาย จึงไม่มีใครกล้าเข้าไป ได้แค่กรรมการหกเจ็ดคนไปช่วยท่าน ส่วนคนอื่น โอ้ย! ไม่มีใครรุ่นนั้นก็มีพ่อใหญ่สีบิด (สุทธิกรณ์) แล้วก็พ่อใหญ่นำ พ่อใหญ่สีทุกวันนี้ อายุได้ 89 แล้ว
นี่คือที่ไปที่มาการขุดหลวงพ่อเงิน การตั้งบ้านแปลงเมือง บ้านปากน้ำ เป็นข้อมูลที่ดี
ที่นี้ ขุดไปพบกระดูกสองหม้อ มีแต่หัวใหญ่ ๆ ขุดลงไปอีกไปเจอกระปุกสองอัน กระปุกนี้พระเงิน 10 องค์อยู่ในนั้น พระเงินแท้เท่าหัวแม่มือ ทีนี้ กระปุกที่ 2 มีพระ 10 องค์อยู่ด้วยกัน เเล้วก็มาพูดกัน ตอนเอาขึ้นนั้น พบเวลาเที่ยงคืน
กว่าจะเอาขึ้นได้จนถึงตีสี่ ค่อย ๆ เอามือโกยดินออก
ขุดแบบมาราธอนเลย จนถึงตีสี่ จึงเอาหลวงพ่อเงินขึ้นได้ ?
พอตีสี่เอาขึ้นได้ แล้วท่านก็บอกให้เอาถมดินไว้ พอ ๆ
ที่มา คลิปสัมภาษณ์
เนื้อหาเกี่ยวข้อง